ค้นหาบล็อกนี้

Grammar Review and Terminology

Grammar Review and Terminology
(ทบทวนไวยากรณ์และอธิบายศัพท์เฉพาะ)
____________________________________
ถาม : Part of Speech คืออะไร? แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง?
ตอบ : Part of Speech แปลว่า "ส่วนแห่งคำพูด" หรือ "ชนิดของคำพูด" คำภาษาิััอังกฤษทุกคำที่เราเขียน
         หรือพูดอยุ่ทุกวันนี้จะต้องเป็นส่วนใดส่วนหนุ่งของ Part of Speech ทั้งนั้นจะหนีพ้นไปไม่ได้

Part of Speech แบ่งออกเป็น 8 ชนิด ได้แก่ :-
1.Noun=นาม
2.Pronoun=สรรพนาม
3.Verb=กริยา
4.Adverb=คำวิเศษณ์(หรือคำกริยาวิเศษณ์)
5.Adjective=คุณศัพท์
6.Preposition=บุรพบท
7.Conjunction=สันธาน
8.interjection=อุทาน
จะขออธิบายให้ทราบโดยสังเขปดังต่อไปนี้ :-

      1.1. Noun แปลว่า "ชื่อ" ได้แก่ "คำที่เราใช้เรียกชื่อ คน,สัตว์,สิงของ,สถานที่,คุณสมบัติหรือคุณค่าต่าง ๆ" เช่น :-
   คน : Reagan, Sombat, Wilai, Sulaiman ฯลฯ
   สัตว์ : Cat, Monkey, Elephant, Snake ฯลฯ
   สิ่งของ : Desk, Chair, Radio, Pencil ฯลฯ
   สถานที่ : Office, Town, School, Club ฯลฯ
   คุณสมบัติหรือคุณค่า : Truth, Wisdom, Goodness ฯลฯ
    
      2.2. Pronoun แปลว่า "สรรพนาม" หมายถึง "คำที่ใช้แทน noun หรือพูดง่าย ๆ ก็คือใช้แทนชื่อ
คน, สัตว์, สิ่งของ, สถานที่, หรือคุณค่าต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วนั้น ทั้งนี้เพื่อต้องการมิให้พูดหรือ
เอ่ยถึงชื่อคน, สัตว์, ฯลฯ เป็นต้นนั้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ อ้นจะเป็นเหตุให้การฟังไม่ไพเราะเพราะหู"
Pronoun ได้แก่คำต่อไปนี้
      1. We, You, He, She, It, They, Who, these, Each, One เป็นต้น นอกจากนี้ Pronoun
ยังแบ่งออกไปได้อีกเป็น 2 พจน์ 3 บุรุษ 8 ชนิืด ซึ่งจะได้กล่าวให้ละเอียดอีกคร้งเมื่อถึงบท Pronoun

      3.3. Verb แปลว่า "กริยา" หมายถึง "คำหรือกลุ่มคำที่เป็นการแสดงออกขอประธาน หรือแสดงภาวะ(being)ของประธาน" ดังนั้นคำที่เรามักได้ยินอยู่เสมอว่า Predicate of the Sentence นั้นบางครั้งอาจเป็น Verb ตัวเดียวก็ได้ หรือ Verb บวกกับคำอื่น ก็ได้ เพื่อช่วยทำให้ประโยคนั้นมีความสมบูรณ์ขึ้น ได้แก่
have, do, read, wash, will have been seen, etc. เรียกคำเหล่านี้ว่า verb ทั้งนั้น
  
      4.4 Adverb แปลว่า "กริยาวิเศษณ์" (บางอาจารย์ก็เรียกคำวิเศษณ์) หมายถึง "คำที่ไปทำหน้าที่ขยาย Verb, ขยาย Adjective และขยาย Adverb ด้วยกันเองก็ได้ เพื่อให้เนื้อความของประโยคนั้น ๆ
ชัดเจนยิ่งขึ้น" ได้แก่
        well (ดี), slowly (อย่างช้า), hard (ลำบาก, หนัก), soon (ในไม่้ช้า) เป็นตั้น

      5.5. Adjective แปลว่า "คุณศัพท์" ได้แก่ "คำหรือกลุ่มคำที่ช่วยทำให้ Noun หรือ Pronoun มี
ความหมายมากขึ้นหรือชัดเจนขึ้น" เช่น
        higher income (รายได้สูง) Net price (ราคาขาดตัว)
        A beautiful girl is wanted by everyone. ผู้หญิงสวยเป็นที่ต้องการของทุกคน เป็นต้น

      6.6. Preposition แปลว่า "บุรพบท" คือ "คำที่ใช้เชื่อม Noun และ Pronoun เข้ากับคำอื่น ๆ ที่อยู่ในประโยค ทั้งนี้เพื่อให้ใจความของประโยคกลมกลืนสละสลวยขึ้น" ได้แก่
        in, on, at, by, form, toward, into, etc. เช่น
        Jane is in the office. เจนอยู่ในออฟฟิซ
        We are from England by plain. เรามาจากประเทศอังกฤษโดยทางเครื่องบิน

      7.7. Conjunction แปลว่า "สันธาน" คือ "คำที่ใช้เชื่อมคำต่อคำ (Words), วลี (Phrases), หรือ ประโยค (Clauses) ต่าง ๆ ให้เชื่อมดยงซึ่งกันและกัน" ได้แก่
        and, or, but, not, since, although, while, เช่น
        He plays but I learn. เขาเล่นแต่ฉันเรียน

      8.8. Interjection แปลว่า "อุทาน" คือ "คำที่เราพูดออกมาด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากจิตใจ ซึ่งจะอุทานออกมาเป็นคำเดียวก็ได้ หรือเป็นประโยคก็ได้" เช่น
        Ah! อ้า, Nonsense! เหลวไหลหน่า
        What a sad thin it is! มันเป็นสิ่งที่เศร้าใจแท้ ๆ

        อนึ่ง ความละเอียดแต่ละหัวข้อของ Part of Speech นี้จะได้อธิยายในบทต่อไป ขอให้นักศึกษาติดตามต่อไปเถอะ อย่าพึ่งเกียจคร้านง่วงเหงาหาวนอนเลย เพื่อให้ความรุ้สึกหรือความคิดที่มีอยู่ในใจว่า "เรียนภาษาอังกฤษมาแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลย" นั้น หมดไปเสียที เมื่อได้อ่านเว็บบล็อกนี้